5 สิ่งมหัศจรรย์เกี่ยวกับดวงจันทร์

ดวงจันทร์ (The Moon) ​เป็นบริวารดวงเดียวของโลกและมีขนาดเล็กกว่าโลกมาก หลังจากการก่อตัวของระบบสุริยะ เย็นตัวอย่างรวดเร็วจนโครงสร้างภายในกลายเป็นของแข็งทั้งหมดจึงไม่มีสนามแม่เหล็กมีมวลน้อยจึงมีแรงโน้มถ่วงน้อยจนไม่สามารถดึงดูดบรรยากาศไว้ได้  การที่ไม่มีชั้นบรรยากาศห่อหุ้มอยู่เลย ทำให้อุกกา บาตพุ่งชนพื้นผิวโดยอิสระไร้แรงเสียดทาน จึงปกคลุมไปด้วยฝุ่นผงและกรวดอุกกาบาต ซึ่งถ้า ว่าเรานั้นมองดูจากโลกเราก็จะมองเห็นพื้นที่สีคล้ำเป็นรูปกระต่ายนั่นเอง ซึ่งคนสมัยก่อนนั้นเข้าใจว่า บริเวณนั้นเป็นทะเลนั่นเอง ซึ่งสิ่งมหัศจรรย์เกี่ยวกับดวงจันทร์นั้นมีอีกมากมายซึ่งจะมีอะไรกันบ้างนั้น วันนี้เรานั้นก็จะนำเสนอ  5 สิ่งมหัศจรรย์เกี่ยวกับ ดวงจันทร์ นั้นให้เพื่อนๆ นั้นได้รู้จักกัน ซึ่งจะมีเรื่องอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันกับบทความนี้

1.ดวงจันทร์ไม่ได้กลมอย่างที่เรานั้นคิดกัน

หากเราออกไปยืนมองดวงจันทร์จากบนโลก จะได้เห็นด้านสั้นที่สุดชี้ตรงมาหาเรา และศูนย์กลางมวลของดวงจันทร์ ไม่ได้อยู่ตรงเส้นศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ของดวงจันทร์ แต่อยู่ห่างออกจากเส้นสมมติดังกล่าวออกมา 2 กิโลเมตร และบนดวงจันทร์นั้นก็ไม่มีอากาศ ไม่มีน้ำ และไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ พื้นผิวของดวงจันทร์เต็มไปด้วยฝุ่น และเศษหิน ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่แตกออกจากแรงกระแทกของอุกาบาต และยังมีภูเขาสูง หลุมอุกาบาต และหุบเหวลึกมากมายทั่วเต็ม อยู่ทุกทั่วบริเวณพื้นผิวของดวงจันทร์ที่นักวิทยาศาสตร์ได้ไปเหยียบแล้วนั่นเอง

moon discoveryman

2.ดาวโลก-ดวงจันทร์แหว่งกันกลับข้าง

เมื่ออยู่บนดวงจันทร์ในคืนเดือนมืด เราจะเห็นโลก “เต็มดวง” แต่เมื่อจันทร์อยู่ในช่วงข้างขึ้น ซึ่งเราจะเห็นจันทร์แหว่ง ซีกซ้าย ในทางตรงกันข้ามเราจะเห็นโลกในช่วงแรมแหว่งครึ่งดวงทางขวา ทว่า เมื่อจันทร์อยู่ในช่วงข้างแรมจะเห็น จันทร์แหว่งด้านขวา แต่เราจะเห็นโลกในช่วงขึ้น ซึ่งปรากฎโลกแหว่งทางซ้าย และเราจะเห็นโลกจากบนดวงจันทร์ ในตำแหน่งเดียวกับที่เห็นดวงจันทร์บนโลก แต่ถึงอย่างไรก็ตามแต่ โลกนั้นไม่มีวันลับขอบฟ้าที่ดวงจันทร์ โดยจะอยู่ ในตำแหน่งเดิมเสมอเมื่อมองจากดาวบริวารเพียงหนึ่งเดียวนี้นั่นเอง ช่วงที่ดวงจันทร์ปรากฏเกือบจะเต็มดวง 95% มีความสว่างเพียงแค่ครึ่งของจันทร์เต็มดวง แม้ว่าจะดูสว่างเหมือนกำลังเต็มดวง แต่มีค่าความสว่างเพียง 0.7 ขณะที่ ดวงจันทร์เต็มดวงสว่างประมาณ -12 (ยิ่งเลขน้อยแปลว่ายิ่งสว่างมาก) ซึ่งจะเห็นว่าแม้จะเกือบเต็มดวงแต่ความสว่าง ยังห่างไกลดวงจันทร์เต็มดวง

3.บนดวงจันทร์นั้นก็มี “โซนแบ่งเวลา” เหมือนกันนะ

ไม่ใช่แค่โลกเราเพียงเท่านั้นที่มี “เขตเวลา” (Time Zone) แต่บนดวงจันทร์ก็มีเช่นเดียวกัน เมื่อปี 1970 เคนเนธ แอล แฟรงกลิน ซึ่งเขานั้นเป็นหัวหน้านักดาราศาสตร์ของท้องฟ้าจำลองไฮเดน ในนิวยอร์ก ได้รับการร้องขอจากบริษัท นาฬิกาให้ออกแบบนาฬิกาสำหรับใช้บนดวงจันทร์ โดยสามารถวัดเวลาแบบ “ลูเนชัน” ซึ่งเป็นคาบเวลาที่ดวงจันทร์ โคจรรอบโลก (ลูเนชันละ 29.530589 วันบนโลก) ทั้งนี้ เส้นแบ่งเวลา หรือเส้นแวงบนดวงจันทร์นั้น มีความกว้าง 12 องศา (ขณะที่เส้นแวงโลกกว้าง 15 องศา) และเขตเวลาบนดวงจันทร์ล้วนมีชื่อเฉพาะ เช่น เขตเวลาโคเปอร์นิแคน (Copernican time), เขตเวลา 36 องศาตะวันออก (36-degree East Zone time) เป็นต้น ส่วนชั่วโมงบนดวงจันทร์ มีชื่อเรียกว่า “ลูนาวร์” (Lunour) กันนั่นเองจ้า

moon discoveryman

4.แสงสีเลือดหมูที่เกิดจากจันทรุปราคาบนโลก

ถ้าเราอยู่บนดวงจันทร์แล้วเห็นโลกบังดวงอาทิตย์ทั้งดวง เราจะได้เห็นวงแหวนแคบๆ สีเลือดหมูรอบโลกดวงมืดๆ ซึ่งเกิดจากแสงดวงอาทิตย์ผ่านชั้นบรรยากาศของโลกเรา โดยสีที่เห็นนั้น เกิดจากการผสมผสานระหว่างแสงยาม อาทิตย์ขึ้นและลับขอบฟ้า เช่นเดียวกันกับที่เราเห็นดวงอาทิตย์เป็นสีเลือด เมื่อเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงนั่นเอง และอีก สิ่งที่ดวงจันทร์เต็มดวงมีความสว่าง -12.7 ขณะที่ดวงอาทิตย์มีความสว่างอยู่ที่ -26.7 ซึ่งสัดส่วนความสว่างของดวง อาทิตย์ต่อดวงจันทร์เป็น 398,110 ต่อ 1 นั่นหมายความว่า เราต้องใช้จันทร์เต็มดวงเกือบ 4 แสนดวงเพื่อให้ได้ความ สว่างเท่าดวงอาทิตย์เพียงดวงเดียวนั่นเอง

super-blue-blood-moon-1 discoveryman

5,อุณหภูมิสูง-ต่ำบนดวงจันทร์ที่มีความแตกต่างกันแบบสุดๆ

ซึ่งข้อมูลนี้นั้นได้มีการนำมาอ้างอิงจากทางเว็บไซต์ของทางขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ หรือนาซา นั่น เอง ซึ่งอุณหภูมิที่เส้นศูนย์สูตรของดวงจันทร์ตอนกลางคืนนั้นจะมีอุณหภูมิที่ต่ำถึง -173 องศาเซลเซียส และสูงถึง 127 องศาเซลเซียสในตอนกลางวัน ส่วนในหลุมลึกใกล้ๆ ขั้วดวงจันทร์ มีอุณหภูมิเกือบถึง -240 องศาเซลเซียสกันเลย และซึ่งนอกจากนี้ระหว่างเกิดจันทรุปราคา ที่ดวงจันทร์เข้าสู่เงาของโลก อุณหภูมิพื้นผิวของดวงจันทร์จะลดลงอย่าง รวดเร็วลงไปถึง 300 องศาเซลเซียสในเวลาไม่ถึง 90 นาทีเลยนั่นเอง

Write by : Discoveryman

Facebook Page : Discoveryman 22