ถ้าหากโลกนี้ไม่มีผึ้ง

ถ้าหากว่าวันหนึ่งนั้นเราตื่นขึ้นมาแล้วกลับพบว่าไม่มีผึ้งอยู่บนโลกของเราแล้ว ? ซึ่งในปัจจุบันนี้นั้นประชากรผึ้งกำลังลดจำนวนลงอย่างน่าวิตก บางครั้งก็เป็นโรคตายกันยกรัง ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป หากวันข้างหน้าโลกของเราไม่เหลือผึ้งเลย มันจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งผึ้งนั้นที่ดูๆ แล้วนั้นดูเป็นแมลงที่ดูมีความห่างไกล จากตัวคนเราเป็นอย่างมาก ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ อย่างเช่นสุนัข หรือเจ้าแมวเหมียวที่เรานั้นสามารถที่จะเลี้ยง ไว้เป็นสัตว์เลี้ยงเฝ้าบ้านได้กันนั่นเองแล้วถ้าหากว่าวันหนึ่งนั้นโลกของเรานั้นไม่มีผึ้งขึ้นมาละจะเกิดอะไรขึ้น ? ซึ่งอย่างแย่ที่สุดนั้นนั่นก็คือ เหล่ามนุษย์ อย่างเราๆ นั้นก็คงจะไม่มีน้ำผึ้งหวานๆ ที่ไดจกรังผึ้งนั้นไว้กินกันเพียงแค่เท่านั้นเอง แต่เหล่านักวิทยาศาสตร์นั้นได้ค้น พบว่ามันสิ่งที่จะตามมานั้นไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะถ้าหากว่าโลกของเรานั้นในวันหนึ่งที่ต้องไม่มีผึ้งนั้นอยู่บนโลก สิ่งที่จะเกิด ขึ้นกับเรานั้นอาจจะเรียกได้ว่าหายนะกันเลยก็ว่าได้นั่นเอง ซึ่งพืชดอกภายในโลกเรานัน้มีเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เพียง เท่านั้นที่จะสามารปล่อยละอองเกสรนั้นให้ปลิวไปตามสายลมนั้นได้เองเพื่อที่จะรอเวลาในการผสมเกสรของเกสรตัวเมีย ซึ่งดอกไม้เหล่านี้นั้นมักจะมีรูปร่าง และสีสันที่ไม่มีความโดดเด่น รวมไปถึงเกสรพวกนี้นั้นมักจะไม่มีความหวาน อยู่เลย เพื่อที่จะเป็นตัวล่อสัตว์ต่างๆ นั้นมาช่วยในการผสมเกสร แต่จะใช้วิธีการในการสร้างละอองเกสรนั้นในปริมาณ ที่มากๆ นั้นขึ้นมาแทนนั่นเอง

ผึ้ง Discoveryman 2

1.พืชดอกส่วนมากนั้นก็จะใช้การสร้างกลีบดอกไม้ที่สวยงามฉูดฉาดเพื่อเชิญชวนสัตว์ที่จะช่วยผสมเกสร 

ให้เดินทางมาใกล้ และมักจะมีน้ำหวานตอบแทนการช่วยผสมเกสร ซึ่งเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าพืชแต่ละชนิดนั้นก็จะมี เหล่าสัตว์ที่ถือได้ว่าเป็นผู้ใช้ยริการหลักนั้นก็จะมีแตกต่างกันออกไป

นก discoveryman

2.นกที่จะเป็นตัวที่ช่วยในการผสมเกสรของดอกไม้

อย่างเช่นนกฮัมมิงเบิร์ด ที่ส่วนมากนั้นเรานั้นจะสามารถมองเห็นได้ดี ในช่วงของตอนกลางวัน  แต่นกเหล่านี้นั้นมักที่จะดมกลิ่นได้ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งพืชที่มีความสัมพันธ์กับนกเหล่านี้นั้นมัก จะมีสีแดงที่สดใส และส่วนมากนั้นจะไม่มีกลิ่นเลย

และเหล่าดอกไม้ที่ล่อสัตว์กลางคืนอย่างเช่นพวกค้างคาวนั้นส่วนมากนั้นมักจะผลิตกลิ่นอย่างเช่น กลิ่นของผลไม่ หรือ กลิ่นที่ค่อนข้างขะมีความฉุนนั้นออกมาแน ซึ่งนอกจากนี้นั้นก็ยังมีสีซีดขาวที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่ออยู่ภายใต้ของ แสงจันทร์นั่นเอง

ผึ้ง Discoveryman

3.ในส่วนของผึ้งน้อยนั้นก็จะชอบที่จะไปไต่ตอมดอมดมดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหวาน

เช่น ดอกไม้ที่มีสีเหลือง สีน้ำเงิน หรือแม้แต่สีม่วง ซึ่งดอกไม้บางชนิดนี้นั้นก็สามารถที่จะส้รางเม็ดสีที่จะสามรถสะท้อนกับแสงอัลตราไวโอเลต เพื่อที่ จะในการหลอกล่อให้เหล่าเจ้าผึ้งน้อยนี้นั้นบินมาเกาะเพื่อหาน้ำหวานนั่นเอง ซึ่งดวงตาของมนุษย์เรานั้นกลับมองเห็น ดอกไม้เหล่านั้นมีสีสันธรรมดาเพราะว่าภายในดวงตาของเรานั้นไม่ได้มีตัวรับแสงอัลตราไวโอเลตอย่างผึ้งนั่นเอง

และอีกอย่างนั้นพืชไม่สามารถที่จะเปลี่ยนวิธี หรือแมลงผสมเกสรได้อย่างปุบปับ ดังนั้น ในระยะสั้นการสูญพันธุ์ ของผึ้งจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ของป่าหลายชนิดลดลงแน่นอน ส่วนในระยะยาว

4.บางส่วนจะบรรเทาลงจากแมลงอื่นๆ (Pollinator)

ในระบบนิเวศธรรมชาติจะเข้ามาทำหน้าที่ทดแทนผึ้ง แมลงหลายชนิดทำ หน้าที่ผสมเกสรได้เหมือนผึ้ง แต่พวกมันไม่มีทางขนส่งเกสรเป็นระยะไกลๆ และครอบคลุมพื้นที่ และชนิดของพืช พรรณได้เท่ากับผึ้ง ดังนั้น พืชที่เคยใช้ผึ้งเป็นตัวผสมเกสรก็จะต้องอาศัยมนุษย์ในการช่วยผสมเกสรให้ ส่งผลให้ต้นทุน การผลิตสูงขึ้น ราคาสินค้าผัก และผลไม้ในท้องตลาดนั้นก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง ซึ่งผลกระทบที่จะตาม มาของการสูญพันธุ์ของพืชเพียงแค่ชนิดหนึ่งนั้นก็สามารถที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้อีกด้วยเช่นกัน

ซึ่งถ้าหากโลกใบนี้ขอวเรานั้นปราศจากเหล่าแมลงตัวจิ๋วอย่างผึ้งน้อยนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ? ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นเราอาจจะ ต้องคิดกันเองดูถ้าโลกใบนี้นั้นไม่มีผัก ผลไม้จะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งการอนุรักษ์เหล่าสัตว์ที่ช่วยในการผสมเกสรนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ถ้าหากว่าคนเรานั้นสามารถที่จะ ตระหนักได้ถึงปัญหาที่มันจเกิดตามทีหลังนั้นก็น่าจะเป้นเรื่องที่สำคัญอย่างมากที่เรานั้นจะต้องรักษาเหล่าเจ้าแมลงตัว จิ๋วนี้ไว้ไม่ให้พวกมันนั้นสูญพันธ์ไปในที่สุดนั่นเอง

Write by : Discoveryman

Facebook Page : Discoveryman 22